การแบ่งส่วนการตลาด
การแบ่งส่วนการตลาด (Market Segmentation) สำคัญต่อธุรกิจอย่างไร
ภาพจาก : bgnentrepreneur.net
ทำไมบางบริษัทมีผลิตภัณฑ์มากมายขายดีทุกตัว
ทำไมบางบริษัทมีลูกค้าหลายประเภทแต่ก็ยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด
เคล็ดลับที่ทำให้บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จอาจไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อนอะไร
หากคุณสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าและมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนการบริการแต่ละประเภทให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้
โดยอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า “การแบ่งส่วนการตลาด” ซึ่งธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถนำไปปรับใช้ได้
ใช่ว่าจะต้องเป็นบริษัทใหญ่โตเท่านั้น
เพียงแต่ก่อนอื่นคุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับเครื่องมือที่ว่านี้ก่อนเท่านั้นเอง...
- การแบ่งส่วนตลาดก็คือการแบ่งกลุ่มตลาดในการทำธุรกิจซึ่งมีการใช้มายาวนานหกสิบกว่าปีแล้ว
โดยทั่วไปการแบ่งกลุ่มจะเริ่มจากข้อมูลพื้นฐาน อย่างเพศ อายุ รายได้ การศึกษา
ภูมิศาสตร์ ฯลฯ
จนกระทั่งมีความซับซ้อนมากขึ้นตามสภาพสังคมจึงได้มีการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคตามมา
เช่นความถี่-ห่างในการซื้อสินค้า สถานที่ที่ชอบไปซื้อสินค้า
ความพึงพอใจของผู้บริโภค ฯลฯ
ในยุคหลังจึงได้มีการศึกษามากขึ้นมาเรื่อยๆ อาทิ
ความคาดหวังที่อยากได้จากสินค้านอกจากหน้าที่หลักของสินค้าแล้วผู้บริโภคอาจต้องการความเก๋
เท่จากสินค้าเพื่อช่วยให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดี
ตลอดจนความรู้สึกทางอารมณ์และจิตวิทยา เช่น
ถ้าผู้บริโภคอยากมีรูปลักษณ์เหมือนดาราคนไหนก็สามารถนำมาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคที่เฉพาะกลุ่มลงไปอีก
-
ข้อดีของการแบ่งส่วนทางการตลาดช่วยให้เราได้รู้ถึงข้อเท็จจริงมากมายที่มีผลต่อการทำธุรกิจเช่น
ลูกค้าของเรากลุ่มไหนที่มีกำลังซื้อสูงที่สุด
เราจะวางแผนการตลาดอย่างไรเพื่อให้สินค้าและบริการของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
เราจะสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าของเราได้อย่างไรให้ตรงใจลูกค้า ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ชนิดใดควรที่จะออกสู่ตลาดแล้วได้ผลกำไรมากที่สุด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจรู้เลย
ถ้าไม่ได้ทำการศึกษากลุ่มลูกค้าและแบ่งกลุ่มทางการตลาดออกมา
-
การแบ่งส่วนการตลาดที่จะประสบความสำเร็จและสามารถนำไปใช้ได้จริงนั้น ควรมีปัจจัยดังต่อไปนี้คือ
1.สามารถทำให้เกิดการซื้อสินค้าได้
หมายความว่ากลุ่มที่แบ่งออกมานี้มีลูกค้าที่นับจำนวนได้จริงต่อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าในแบรนด์นั้นๆ
และเป็นกลุ่มลูกค้าที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งในด้านช่องทางการสื่อสารประชาสัมพันธ์ตลอดจนการจัดส่งสินค้า
2.มีจำนวนลูกค้ามากพอสมควร คุ้มค่าและเหมาะสมกับการลงทุน
3.เป็นกลุ่มลูกค้าทีมีความเฉพาะตัว
เมื่อแบ่งกลุ่มออกมาแล้วมีความต้องการ
ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แตกต่างกันสามารถนำไปพัฒนาเป็นสินค้าและบริการชนิดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถสื่อสารได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย
4.มีช่วงเวลาในการวางขายที่ยาวนาน
แม้ว่าสินค้าและการบริการหลายชนิดจะมีอายุการใช้งานที่สั้น
ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็วและจางหายไปในเวลาเร็วกว่า
แต่สินค้าที่จะนำมาผลิตขึ้นมาใหม่นี้ควรจะมีทั้งความหลากหลายตลอดจนอายุในการวางขายสินค้าที่ยาวนานเพื่อเป็นการใช้เงินลงทุนให้คุ้มค่าเพราะการผลิตและทำการตลาดสินค้าใหม่แต่ละชนิดนั้นใช้เงินอยู่ไม่น้อยจึงควรมีระยะเวลาในการวางขายที่คุ้มค่า
ที่มา http://www.ksmecare.com/
ผู้ค้นหา นางสาวเจนจิรา
แซ่หมี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น