การบริหารองค์กรด้วยแนวคิดการตลาด
องค์กรธุรกิจได้มีการใช้การตลาดมาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารองค์กรมานานแล้ว แต่ด้วยแนวคิดและปรัชญาการตลาดที่แตกต่างกันดังนี้
แนวคิดการผลิต (The Production Concept)
คือ
แนวคิดการตลาดที่ยึดว่าผู้บริโภคจะนิยมชอบสินค้าราคาถูกที่สามารถหาซื้อได้ง่าย
ดังนั้น เจ้าของสินค้าจะเน้นที่การผลิตเป็นจำนวนมากด้วยต้นทุนถูกและกระจายสินค้าอย่างทั่วถึงแนวคิดการตลาดในปรัชญานี้มีการใช้กันมากช่วงต้นปี
ค.ศ.1900 เช่น บริษัทรถยนต์ฟอร์ด ซึ่งนำเสนอรถยนต์รุ่นเดียว แบบเดียวในยุคแรกของอุตสาหกรรมยารักษาโรคได้มีการเน้นโดยใช้แนวคิดนี้เช่นกัน ปัจจุบันยังมีการบริหารการตลาดด้วยแนวคิดนี้ในประเทศที่กำลังพัฒนาหลาย
ๆ ประเทศ
แนวคิดผลิตภัณฑ์ (The Product Concept)
คือ
แนวคิดการตลาดที่ยึดว่าผู้บริโภคต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่สุดและสามารถนำมาใช้งานได้อย่างดียิ่งเน้นลักษณะผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่
ๆ
ผู้บริหารที่บริหารการตลาดด้วยแนวคิดนี้จึงมุ่งการเสนอสินค้าที่มีคุณภาพดียิ่งและพัฒนาปรับปรุงสินค้าตลอดเวลา
บ่อยครั้งที่ผู้บริหารจะหลงไหลและรักสินค้าของตน
โดยมิได้พิจารณาถึงความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง
ผู้บริหารจะให้ความเชื่อถือต่อวิศวกรหรือนักประดิษฐ์ขององค์กรมากกว่า เช่น
บริษัทรถยนต์ GM ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีความคิดว่าลูกค้าไม่สามารถอธิบายรถยนต์ที่ต้องการหรือชอบได้จนกว่าจะได้เห็นรถยนต์จริง
ๆ จึงเป็นหน้าที่ของบริษัทที่ต้องเสนอและชี้นำลูกค้าด้วยการเสนอรถยนต์ที่มีสมรรถนะดี
และรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย
แนวคิดการขาย (The Selling Concept)
คือ แนวคิดที่ยึดว่าโดยปกติแล้ว
ผู้บริโภคหรือหน่วยงานต่างๆ จะซื้อสินค้าในปริมาณที่น้อย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ขององค์กรที่ต้องมีการใช้วิธีการขายเชิงรุกในการส่งเสริมการขายมากขึ้น
แนวคิดนี้มีการใช้มากในสินค้าประเภทที่ลูกค้าไม่ได้เสาะแสวงหาในการซื้อ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต เครื่องลายครามหรือสินค้า/บริการขององค์กรที่ไม่มุ่งหวังกำไร เช่น
การบริจาคเงินหรืออุดหนุนให้กับสถาบันการศึกษา โรงพยาบาลมูลนิธิหรือสถาบันศาสนาต่างๆ เป็นต้น พนักงานขายจึงนับว่ามีบทบาทและอิทธิพลต่อการซื้อของลูกค้าการใช้แนวคิดการขายที่รุกมากเกินไป
อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้ง่าย และเกิดการบอกต่อที่ไม่ดีต่อสินค้าและบริษัทในที่สุด
แนวคิดการตลาด (The Marketing Concept)
คือ แนวคิดการตลาดที่องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมาย
โดยการนำเสนอสินค้า/บริการและสื่อสารคุณค่าไปยังตลาดเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผลที่เหนือกว่าคู่แข่งขันองค์กรที่บริหารการตลาด โดยใช้แนวคิดนี้มักจะมีคำเตือนใจหรือคำขวัญที่แสดงออกมา เช่น
"ลูกค้าคือพระราชา"
"ลูกค้าเป็นฝ่ายถูกเสมอ"
"ลูกค้า
คือนายของเรา"
"ลูกค้าคือหุ้นส่วนเพื่อกำไร"
Theodore Levitt แห่งมหาวิทยาลัย Harvard
ได้แสดงการเปรียบเทียบการบริหารสำหรับแนวคิดการขายและการตลาดซึ่งจัดเป็นแนวคิดที่มีการใช้กันอย่างกว้างขวางในองค์กรธุรกิจดังนี้
องค์กรซึ่งมีการขายสินค้า/บริหาร โดยใช้แนวคิดการขายอย่างชัดเจน คือ กิจการการขายตรงหลาย ๆ แห่ง โดยเฉพาะการขายตรงแบบหลาย ๆ ชั้น (Multi-level Marketing) บางกิจการที่เน้นบทบาท เทคนิคการขายตลอดจนแต้มรางวัลสะสมต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ซื้อซื้อสินค้าโดยที่บางครั้งไม่มีความต้องการในสินค้านั้นนักแต่ในที่สุดต้องซื้อสินค้านั้น ๆ อย่างไม่เต็มใจหรือซื้อเพราะอยากได้โปรแกรมส่งเสริมการขายมากกว่าความต้องการในสินค้านั้นจริง ๆ องค์กรซึ่งบริหารโดยใช้แนวคิดการตลาดมีมากมายในปัจจุบัน เช่น บริษัทเครื่องสำอางที่มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจนนอกจากกลุ่มลูกค้าหลักคือหญิงสาวแล้ว ยังมีกลุ่มลูกค้าวัยสูงอายุหรือกลุ่มลูกค้าชาย แล้วก็มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์สนองความต้องการกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ ตลอดจนเสนอการบริการและการสื่อสารเป็นการเฉพาะ และสามารถเพิ่มยอดขายได้อีกนอกจากการขายสินค้าให้กลุ่มลูกค้าเดิม ๆ ดังนั้น
สรุปได้ว่า แนวคิดการตลาดที่แท้จริงนั้นต้องประกอบด้วยองค์ประกอบตาง ๆ
ดังนี้
- การกำหนดตลาดเป้าหมายที่ชัดเจน
- ศึกษาความต้องการของลูกค้าเป้าหมายอย่างละเอียด
- ความผสมผสานและร่วมมือทางการตลาดของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายชาย
การส่งเสริมการขาย
โฆษณา ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ฝ่ายวิจัยตลาดต่างๆ เป็นต้น ขณะเดียวกันยังผสมผสานร่วมมือกับหน่วยงาน
อื่น ๆ ในองค์กร เช่น ฝ่ายบัญชี ฝ่ายผลิต ฝ่ายธุรการและฝ่ายอื่น ๆ ซึ่งมีจิตสำนึกในเรื่องการตลาดและการบริการลูกค้า ทั้งนี้เพื่อสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
- กำไร วัตถุประสงค์ขององค์กรที่ใช้แนวคิดการตลาดในการบริหารคือผลกำไรนั่นเอง
แต่เป็นผลกำไรที่ได้จากความพอใจของลูกค้าและจัดว่าเป็นกำไรในระยะยาว สำหรับองค์กรที่ไม่มุ่งหวังกำไร ผลลัพธ์ที่ต้องการคือการอยู่รอดได้เพราะการบริจาคเงินหรือได้รับความช่วยเหลือของผู้มีจิตศรัทธานั่นเอง
แนวคิดการตลาดเพื่อสังคม (The Societal Marketing Concept)
คือ
แนวคิดที่องค์กรได้พิจารณาถึงความต้องการและความพอใจของตลาดเป้าหมาย
มีการนำเสนอ
สินค้า/บริการที่ลูกค้าเป้าหมายต้องการด้วยประสิทธิภาพที่เหนือคู่แข่งขัน ขณะเดียวกันสามารถอนุรักษ์และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมอีกด้วยปัจจุบันองค์กรธุรกิจชั้นนำมีการใช้แนวคิดการตลาดเพื่อสังคมใน 2 แนวทาง
ดังนี้
1. การตลาดที่เน้นในเรื่องจริยธรรม (Ethics) โดยเน้นในเรื่องจรรยาบรรณ
กฎเกณฑ์หรือระเบียบวินัยต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นกับสังคมโดยส่วนรวม อีกทั้งความมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งส่งเสริมสถาบันครอบครัวสถาบันศาสนา และอื่น ๆ
2.
การตลาดที่เน้นในเรื่องการอนุรักษ์และปกป้องสิ่งแวดล้อมหรือที่เรียกว่า การตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environmental Marketing) เป็นการเสนอสินค้าสู่ตลาด โดยทำลายสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์สัตว์ป่าหรือทรัพยากรของโลกได้น้อยที่สุด เช่น
การนำของเก่ามาใช้ซ้ำหรือหมุนเวียนนำมาผลิตซ้ำ หรือลดปริมาณการใช้ลง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ บริษัทบอดี้ช๊อฟ
มีการผลิตและขายสินค้าประเภทเครื่องสำอางโดยที่ประบวนการทดลองและการผลิตไม่ทำลายสัตว์ใด
ๆ เลย
และกิจการได้ใช้จุดนี้เป็นจุดขายเพื่อสื่อสารแก่ลูกค้าและสาธารณชนอีกด้วยกระแสการตลาดเพื่อสังคม
โดยเฉพาะปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนับว่ายิ่งสำคัญมากทั่วโลก ผู้บริหารการตลาดในอนาคตจึงควรพิจารณาและศึกษาข้อมูลตลอดจนเตรียมตัวเพื่อใช้ในการบริหารองค์กรต่อไป
ที่มา http://www.stou.ac.th/stouonline/lom/data/sms/market/Unit1/Subm2/U121-1.htm
ผู้ค้นหา นางสาวเจนจิรา แซ่หมี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น